กู้ยืมเงินนอกระบบ คืออะไร
การกู้ยืมเงินนอกระบบคือการกู้ยืมเงินจากแหล่งบริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพูดอีกอย่างคืออยู่ดี ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้มาปล่อยสัญญาเงินกู้ให้กับเรา อีกทั้งยังคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ให้บริการกู้ยืมเงินนอกระบบหรือเงินด่วนทันใจนอกระบบหลายรายยังเกี่ยวข้องกับวงเงินสีเทา เช่น การพนัน และยาเสพติดอีกด้วย ฉะนั้น ใครที่ขัดสนเรื่องเงิน แล้วคิดจะกู้ยืมเงินนอกระบบหรือกู้เงินนอกระบบ ก็อยากให้เบรกความคิดเหล่านั้นเอาไว้ก่อน ถ้าต้องการเงินด่วนจริง ๆ มันก็ยังมีช่องทางอื่น ๆ ที่พอจะช่วยได้อยู่ เช่น การกู้เงินผ่านแอปออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย ถ้าถามว่ามันคืออะไร ก็บอกได้ว่าเป็นการกู้เงินในเครือของธนาคารชั้นนำ โดยมีจุดเด่นตรงที่ไม่เช็กเครดิตบูโร ไม่ต้องมีหลักประกัน และไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนในการกู้
ความเสี่ยงของการกู้ยืมเงินนอกระบบ
อย่างที่รู้กันดีว่าการกู้ยืมเงินนอกระบบหรือกู้ยืมนอกระบบมักมีความเสี่ยงรอบตัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงที่เกิดจากอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งแหล่งบริการหลายแห่งคิดอัตราดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 หรือบางแห่งคิดดอกเบี้ยสูงถึง 25% ต่อเดือนก็มีให้เห็น อีกทั้งการกู้ยืมเงินนอกระบบไม่มีสัญญาเงินกู้ที่ชัดเจน ซึ่งลูกหนี้เสียเปรียบอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหนี้สามารถดัดแปลงสัญญาโดยที่เราอาจไม่ทันก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้น การกู้ยืมเงินนอกระบบ หรือสมัครแหล่งเงินทุนนอกระบบรายเดือนยังมีความเสี่ยงเรื่องภัยคุกคาม หากเราไม่คืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนด เจ้าหนี้อาจส่งคนมาข่มขู่ หรือทำลายทรัพย์สินของเราได้ ซึ่งก็มีให้เห็นตามข่าวอยู่บ่อย ๆ ฉะนั้นแล้ว การสมัครเงินด่วนนอกระบบจึงมีความเสี่ยงมาก ๆ ถ้าใครที่ไม่เคยกู้เงินมาก่อน แนะนำว่าให้บริการเงินด่วนนอกระบบปล่อยจริงหรือเงินด่วนนอกระบบโอนเข้าบัญชีเป็นตัวเลือกสุดท้ายจะดีกว่า
เป็นหนี้จากการกู้ยืมเงินนอกระบบ รับมืออย่างไร
ใครที่เป็นหนี้จากการกู้ยืมเงินนอกระบบ เช่น เงินด่วนนอกระบบออนไลน์ หรือจากสัญญายืมเงินนอกระบบอื่น ๆ แนะนำว่าควรหารายได้เสริมเพิ่มเติม เพื่อให้มีเงินมาคืนค่างวดจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน หากมีทรัพย์สินที่มีค่าก็อาจนำไปขายเพื่อนำเงินมาโปะก่อน เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยของการกู้ยืมเงินนอกระบบนั้นสูงมาก ๆ ถ้าปล่อยไว้ให้เกิดการทบต้นทบดอก อาจทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่องที่หนักกว่าเดิมได้นั่นเอง นอกจากนี้ หากรู้สึกว่าเจ้าหนี้คุกคามมากเกินไป อาจจะต้องติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือ เช่น ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขหนี้สินภาคประชาชน โทร 1359 หรือศูนย์ดำรงธรรม โทร 1567 เป็นต้น